แบบ เบิร์ด เบิร์ด
ขึ้นหัวอย่างนี้หลายคนอาจจะประหลาดใจว่าผมจะเขียนถึงคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์หรืออย่างไร ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมไม่ได้จะเขียนถึงศิลปินคนโปรดของผมแน่นอน แต่วันนี้จะว่าด้วยเรื่องของนก (ที่ไม่ใช่น้องนก) ล้วนๆ ครับ ถ้าพูดถึงนกหรือสัตว์ปีก ประเด็นที่เด่นดังในปัจจุบันคงไม่มีประเด็นไหนสู้กับเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกได้อย่างแน่นอน โรคไข้หวัดนก หรือชื่อภาษาอังกฤษที่ใช้กันว่า Avian Influenza สายพันธ์ H5N1 เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่บางสายพันธุ์ที่พบในนก ซึ่งเป็นแหล่งรังโรคในธรรมชาติ ปกติแล้วโรคนี้ติดต่อมายังคนได้ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเลยนะครับ เนื่องจากคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่เป็นโรคก็อาจติดเชื้อได้ มีรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกในคนครั้งแรกในปี 2540 เมื่อเด็กชายชาวฮ่องกงวัย 3 ขวบ เสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่อย่างกระทันหันจากการติดเชื้อไวรัสไก่ ในคราวที่เกิดโรคระบาดของสัตว์ปีกในฮ่องกง แต่โรคนี้มีชื่อเสียงโด่งดังก็เมื่อปี 2547 โดยได้มีการแพร่ระบาดไข้หวัดนกอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังแพร่ระบาดไปยังยุโรป
ขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้วสำหรับการเริ่มแพร่ระบาดของโลกนี้ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีคนตายจากโรคไข้หวัดนกทั้งสิ้น 68 คน โดยแบ่งเป็นเวียดนาม 41 คน ฮ่องกง 7 คน กัมพูชา 4 คน อินโดนีเซีย 3 คน ส่วนพี่ไทยเราก็ไม่น้อยหน้าครับ มีทั้งหมด 13 คน ขณะที่สัตว์ปีกถูกฆ่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวไปแล้วกว่า 140 ล้านตัว นับว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว หลายท่านอาจมองว่าตัวเลขของผู้เสียชีวิตไม่เยอะเท่าไหร่ แต่อย่าลืมนะครับว่านี่คือตัวเลขของผู้ที่ติดโรคมาจากสัตว์ปีก และหากโรคนี้สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ละก็ จะนับเป็นเรื่องที่น่าวิตกเลยทีเดียวครับ เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ได้วิเคราะห์ว่าโรคนี้อาจมีอันตรายเทียบเท่ากับ Spanish Flu ที่มีการแพร่ระบาดเมื่อปี ค.ศ. 1918 และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 150 ล้านคนเลยทีเดียว
สำหรับในบ้านเรานั้น รัฐบาลได้กำหนดให้โรคไข้หวัดนกเป็น National Agenda เนื่องจากไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยทีเดียว โดยวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวไปสู่มนุษย์ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมโรคไข้หวัดนกขึ้น โดยหน่วยงานนี้จะเป็นผู้ดำเนินการด้านการป้องกันและควบคุมทุกอย่าง รวมทั้งมีการออกแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก พ.ศ. 2548-2550 ทั้งนี้รัฐจะประสานกับหน่วยงานระดับชุมชนในการควบคุมการแพร่ระบาดในแต่ละชุมชน รวมทั้งให้ความรู้ชาวบ้านเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก เพราะการประชาสัมพันธ์ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ไม่ใช่ปิดบังแล้วบอกว่าไม่มีโรคนี้เกิดขึ้นในไทย จนกระทั่งสายไป แบบประมาณวัวหายแล้วล้อมคอก (แฮ่ม!!! คุ้นๆ นะครับ) นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ประสานกับองค์การอนามัยโลก ในการวิจัยพัฒนาต่างๆ อีกด้วย
ในส่วนของกาตาร์ ประเทศที่ผมอยู่นั้นรัฐบาลกาตาร์ได้จัดตั้ง Avian Fluenza Preparedness and Response Committee ขึ้น เพื่อดูแลการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จะมีการติดกล้องอินฟาเรดดิจิตอลที่สนามบินเพื่อตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก เวียดนาม กัมพูชา อนโดนีเซีย และไทย และจะมีการจับตาดูผู้โดยสารเหล่านี้อย่างใกล้ชิด มีการจัดจุดตรวจนกที่อพยพย้านถิ่นฐานเข้ามาและจุดตรวจนำเข้าสัตว์ปีก เพิ่มการห้ามการนำเข้าสัตว์ปีกนอกจากไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังรวมไปถึงโรมาเนีย โครเอเชียด้วย และห้ามนำเข้าสัตว์ปีกมีชีวิตจากทุกประเทศทั่วโลก การสั่งซื้อยา Tamiflu จำนวนมหาศาล (สมกับความร่ำรวย) รวมทั้งมีการให้บริการสาย hotline เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องดังกล่าว
เห็นได้ว่าแต่ละประเทศพยายามที่จะป้องกันโรคดังกล่าว ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นการป้องกันโรคร้ายแล้ว ยังถือว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศด้วย มาตรการรักษาความปลอดภัยจากกการแพร่ระบาดของโลกยังสามารถส่งผลในด้านเศรษฐกิจ โดยสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศได้ อย่างไรก็ดี ผมเห็นว่า การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ควรให้ความสำคัญต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลักมากกว่าที่จะมองถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจ
HK
31 Oct. 05
3 Comments:
น้องเอกใช่ไหมเนี่ย ไม่นึกว่าจะsurf มาเจอในเน็ตนะเนี่ย
blog มีคุณภาพจริงๆ สาระเต็มเปี่ยม
รามาดานนี้ได้ไปอ่านหนังสือที่ starbucks เปล่าเนี่ยเรา พี่ไม่เสนอหน้าไปเลย ย้ายบ้านแล้ว ไกลเกินไปที่จะดั้นด้น เลยจำศีลอยู่บ้านดีกว่า
แวะไปAl nouf มา เพื่อนๆบอกว่าน้องเอกไปเที่ยวบ้าน nouf บ่อยเหมือนกันนิ say hi นะจ๊ะ
ดีมาก สงสัยต้องให้มึงผิดหวังบ่อยๆ นะหัวขี้ จะได้มีบลอคมาอ่าน เยอะๆ ฮ่าๆๆๆ
เฮ้ย ล้อเล่น
ดีว่ะ ความรู้แน่นปึก
หวัดนกล่าสุด ก็กำลังดูว่า สาวชาวพม่า หรือชาวลาวนี่ล่ะ จะติดไหม หลังจากเด็กน้อยที่คลองสามวา ติดไปแล้ว 1 คน
นี่เวลาเปลี่ยนข้าวนกในกรง ต้องหาอะไรมาปิดจมูกล่ะ
เสียวเหมือนกัน
ดีมาก สงสัยต้องให้มึงผิดหวังบ่อยๆ นะหัวขี้ จะได้มีบลอคมาอ่าน เยอะๆ ฮ่าๆๆๆ
เฮ้ย ล้อเล่น
ดีว่ะ ความรู้แน่นปึก
หวัดนกล่าสุด ก็กำลังดูว่า สาวชาวพม่า หรือชาวลาวนี่ล่ะ จะติดไหม หลังจากเด็กน้อยที่คลองสามวา ติดไปแล้ว 1 คน
นี่เวลาเปลี่ยนข้าวนกในกรง ต้องหาอะไรมาปิดจมูกล่ะ
เสียวเหมือนกัน
Post a Comment
<< Home